- เปิดร้าน 18 ต.ค. 2554
- ปรับปรุง 8 ก.พ. 2562
- ผู้ชมทั้งหมด 716,785
- สินค้าทั้งหมด 39
เกล็ดความรู้ตลาดออนไลน์
วันนี้ขอเปลี่ยนจากการแนะนำอาชีพที่ทำมาค้าขายกันบนโลกออนไลน์ มาเป็นข้อมูลวิชาการเกี่ยวกับการค้าออนไลน์ที่มีประโยชน์มีรายงานจากอีริคสันถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในการเลือกซื้อและชอปปิงออนไลน์ แม้จะเป็นข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของต่างประเทศ แต่มีหลายอย่างที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายในบ้านเราควรนำมาพิจารณาเริ่มด้วย อิน-ไลน์ ชอปปิง (in-line shopping) ได้กลายเป็นคำนิยามใหม่ที่สะท้อนพฤติกรรมการชอปปิงของผู้บริโภค ที่จะเลือกดูสินค้าของจริงในร้านค้า (in-store shopping) ควบคู่ไปกับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์โดยตรง (online shopping)โดย 39 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนจ่ายเงินซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ใช้สแกนบาร์โค้ดสินค้า หรือดาวน์โหลดคูปองส่วนลดต่าง ๆผู้ขายสินค้าจะได้รับประโยชน์ หากเข้าใจผู้บริโภค ที่ต้องการซื้อสินค้าให้ได้ในทันทีที่อยากได้ และสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทั้งในร้านค้าจริงและบนช่องทางออนไลน์ควบคู่กันอย่างมีประสิทธิภาพ รายงานนี้ใช้ข้อมูลจากผู้บริโภคในสหรัฐ อเมริกา ปี ค.ศ. 2012 จากข้อมูลแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้บริโภคนิยมใช้สมาร์ทโฟนระหว่างการเลือกซื้อของ เพื่อช่วยในการตัดสินใจรายงานนี้ยังชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยให้คำนิยามว่า “in-line shopping” หมายถึง การที่ผู้บริโภคนิยมใช้ทั้งการเลือกซื้อของบนอินเทอร์เน็ต และการเข้าไปดูของที่ร้านจริง ๆ ควบคู่กันไปพูดกันแบบง่าย ๆ คือ ผู้บริโภคมักต้องการเห็น สัมผัส ลองสินค้า เปรียบเทียบ ราคา เข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้านั้น และรวมไปถึงการจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ต้องต่อแถวรอไมเคิล บีเยอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของอีริคสัน คอนซูเมอร์ แล็บ ระบุว่า ผู้บริโภคต้องเลือกซื้อของหลากชนิดเป็นประจำอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน จึงต้องการแอพพลิเคชั่นช่วยให้การชอปปิงกลายเป็นเรื่องง่ายและยังต้องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาต้องได้ซื้อของในทันทีที่ต้องการหรือมีความจำเป็นด้วย ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าต่าง ๆ ควรทำความเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค และปรับตัวให้ทัน เพื่อความสำเร็จของธุรกิจในอนาคตถ้าสนใจอ่านรายงานฉบับสมบูรณ์ของ พฤติกรรมอินไลน์ชอปปิงของผู้บริโภคคลิกเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์มาอ่านได้ที่ www.ericsson.com/res/docs/2012/consumerlab/in-line-shopping.pdfจะค้าขายสมัยนี้ ไม่ใช่แค่คิดแล้วเดินไปซื้อของที่ตลาดแล้วมาตั้งโต๊ะขายหน้าปากซอย เพราะผู้ซื้อมีช่องทางให้เข้าถึงสินค้าได้มากมาย มีอำนาจต่อรองมากขึ้นใครมีข้อมูลอยู่ในมือย่อมได้เปรียบ อาจมีบ้างบางครั้งที่เราจำเป็นต้องเกี่ยวข้องหรือทำงานร่วมกับคนที่เขาไม่ชอบเราหรือมีอคติกับเรา ซึ่งอคติที่เขามีกับเรานั้นอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น รู้สึกอิจฉา รู้สึกว่าเป็นคู่แข่ง รู้สึกไม่ถูกชะตา เห็นเราทำอะไรก็ขวางหูขวางตาเขาไปหมด แต่ไม่ว่าเขาจะไม่ชอบหน้าเราด้วยสาเหตุใดก็ตาม มันก็เป็นสิ่งที่สร้างความลำบากใจให้กับใครหลาย ๆ คนซึ่งเป็นฝ่ายผู้ถูกกระทำเป็นอันมาก และยิ่งเมื่อต้องมาร่วมงานกันด้วยแล้ว คงทำให้รู้สึกหนักอกหนักใจไม่น้อยเลยทีเดียว ผู้เขียนขอแนะนำวิธีปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกับคนที่ไม่ชอบหน้าเรา อีกทั้งยังช่วยให้เขาลดความอคติและอาจหันมาชอบหน้าเราก็เป็นได้ ดังนี้ 1. ยิ้มเข้าไว้ รอยยิ้มคือเครื่องมือชั้นดีที่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์จากร้ายให้กลายเป็นดีได้อย่างง่ายๆ เราควรจะฝึกนิสัยของเราให้เป็นคนที่ยิ้มง่ายเข้าไว้ แม้ว่าในช่วงแรกมันอาจจะฝืด ๆ อยู่บ้างหากเราต้องมาแจกยิ้มให้กับคนที่ไม่ชอบหน้าเรา แต่ผลดีมันจะเกิดมีขึ้นแน่นอนในภายหลัง ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำคือเมื่อเจอหน้ากันก็ยิ้มให้เขาก่อน และแม้ว่าเรายิ้มให้เขาไปแล้วเขาอาจจะไม่ยิ้มตอบ ก็อย่าเสียความมั่นใจ เพราะสิ่งที่เราทำไม่ได้เป็นพิษเป็นภัย และอย่างน้อยผู้เขียนมั่นใจว่า ถ้าเรายิ้มให้ใครด้วยความจริงใจก็ตาม เราจะต้องได้รับความเป็นมิตรและความรู้สึกดี ๆ ตอบกลับมาอย่างแน่นอน ดู 547 | เริ่ม 5 มี.ค. 2557 23:00:02 | IP 27.130.6.1xx |